Press enter to begin your search

Tel.: (+66) 89 490 1144 | Email: info@sci-innovatech.co.th

blog-th

SCI-INOVATECH / blog-th

กินเค็มแค่ไหนถึงพอดี? คู่มือสุขภาพที่ควรรู้

ความเค็มในอาหารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่เคยสงสัยไหมว่าเราควรกินเค็มแค่ไหนถึงจะพอดี? การบริโภคเกลือหรือโซเดียมมากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไต ในบทความนี้ เราจะมาดูปริมาณที่เหมาะสมและวิธีควบคุมการบริโภคโซเดียมให้เหมาะสมกับร่างกายปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวันองค์การอนามัยโลก (WHO) และกรมอนามัยแนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับเกลือประมาณ 1 ช้อนชาเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง คนไทยส่วนใหญ่บริโภคโซเดียมเฉลี่ยสูงกว่าค่านี้ถึง 2 เท่า ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพในระยะยาวผลเสียของการบริโภคเค็มเกินไปความดันโลหิตสูง: โซเดียมทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น เพิ่มความดันในหลอดเลือดโรคหัวใจและหลอดเลือด: ความดันโลหิตสูงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองโรคไต: โซเดียมส่วนเกินเพิ่มภาระให้ไต ทำให้เสี่ยงต่อโรคไตเรื้อรังกระดูกพรุน: โซเดียมที่มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียม ส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูกวิธีลดเค็มง่ายๆ ในชีวิตประจำวันเลือกวัตถุดิบสดใหม่: ลดการใช้วัตถุดิบแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม และอาหารกระป๋อง ซึ่งมักมีโซเดียมสูงปรุงรสอย่างพอดี: ใช้เครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว เกลือ ให้น้อยลง หรือเลือกสูตรลดโซเดียมอ่านฉลากโภชนาการ: มองหา "โซเดียม" ในฉลากอาหาร...

เค็มเกินไปไหม รู้ทันง่ายๆ ด้วยเครื่องวัดความเค็ม

เค็มเกินไปไหม? เช็กง่ายๆ ด้วยเครื่องวัดความเค็มในอาหาร ตัวช่วยสุขภาพที่ทุกครัวต้องมี เคยไหมที่รู้สึกว่าอาหารที่เราทานในแต่ละวันเค็มไปหรือเปล่า? ความเค็มในอาหารไม่ได้แค่ส่งผลต่อรสชาติ แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต และปัญหาสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย เครื่องวัดความเค็มคืออะไร? เครื่องวัดความเค็มในอาหาร หรือ เครื่องวัดความเค็มดิจิทัล (Digital Salt Meter) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยตรวจวัดปริมาณโซเดียมในอาหารหรือเครื่องดื่ม ใช้งานง่าย เพียงแค่จุ่มหัววัดลงไปในอาหารที่ต้องการตรวจ ขนาดไหนถึงเรียกว่า เค็มเกินไป ? ปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมในแต่ละวันควรอยู่ที่ ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม หรือเทียบเท่ากับ เกลือ 1 ช้อนชา (5 กรัม) ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) เค็มเกินไป หมายถึง ปริมาณโซเดียมในอาหารเกินมาตรฐาน อาหาร 1 มื้อที่มีโซเดียมมากกว่า 600-800 มิลลิกรัมถือว่ามีโซเดียมสูง รสชาติที่เด่นชัดจนกลบรสอื่น หากรู้สึกว่ารสเค็มเกินจนไม่อร่อยหรือทำให้รู้สึกกระหายน้ำมากผิดปกติ ตัวอย่างอาหารที่มีความเค็มสูง ขนมขบเคี้ยว เช่น มันฝรั่งทอด (เฉลี่ย 200-300 มก./ถุงเล็ก) ...

โลหะหนักในน้ำดื่ม อันตรายที่เรามองไม่เห็น

น้ำดื่มเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ โดยทุกคนต้องการน้ำที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับการบริโภคและใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มที่ปลอดภัยยังคงเป็นปัญหาสำคัญในหลายภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพน้ำดื่ม น้ำดื่มอาจถูกปนเปื้อนจากหลายแหล่ง เช่น การปนเปื้อนจากโลหะหนักที่มาจากการกัดกร่อนของท่อ การรั่วไหลจากสถานที่ทิ้งของเสีย หรือจากการทำอุตสาหกรรม สารปนเปื้อนในน้ำดื่มอาจรวมถึงโลหะเช่น ตะกั่ว แคดเมียม โครเมียม หรือแม้แต่สารเคมีที่ใช้ในการเกษตร โลหะในน้ำดื่ม โลหะในน้ำสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่อหินและดินที่มีส่วนประกอบของโลหะละลายลงในน้ำ หรืออาจมาจากการปนเปื้อนในระบบประปาจากท่อที่เกิดการกัดกร่อน การที่น้ำดื่มมีปริมาณโลหะสูงเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น โลหะหนักอาจทำลายระบบประสาท ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็ก และทำให้เกิดโรคเรื้อรังในระยะยาว ดังนั้นควรมีการตรวจสอบและกำจัดโลหะเหล่านี้ออกจากน้ำดื่ม โลหะในแหล่งน้ำอาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือเกิดจากการปนเปื้อน โดยโลหะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะละลายในน้ำเมื่อสัมผัสกับหินหรือดิน ส่วนแหล่งที่มาของความเข้มข้นของโลหะอื่นๆ เช่น การกัดกร่อนของท่อและการรั่วซึมจากสถานที่ทิ้งของเสีย ควรทำการกำจัดโลหะออกจากน้ำดื่มหากมีความเข้มข้นสูงพอที่จะก่อให้เกิดความกังวล ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำ 3 ใน 10 ของประชากรโลกขาดการเข้าถึงระบบสุขาภิบาล 1 ใน 4 ของการเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เกิดจากโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำ 7.9 พันล้านคนยังคงไม่มีบริการน้ำดื่มขั้นพื้นฐาน (ข้อมูลปี 2017) 7.7 พันล้านคน (9%...